Home » เกรท วอลล์ มอเตอร์ ผนึกกำลัง 3 การไฟฟ้า กฟผ. กฟน. และ กฟภ. พัฒนาโครงสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยอย่างเต็มรูปแบบ

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ผนึกกำลัง 3 การไฟฟ้า กฟผ. กฟน. และ กฟภ. พัฒนาโครงสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยอย่างเต็มรูปแบบ

by Angela Kim

เกรท วอลล์ มอเตอร์ จับมือ 3 หน่วยงานการไฟฟ้า ประกอบไปด้วย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการส่งเสริมและสนับสนุนการขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้าและพัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้า เพื่อมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานไฟฟ้า โดยนำความเชี่ยวชาญของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ผสานกับความเชี่ยวชาญด้านพลังงานไฟฟ้าของทั้ง 3 หน่วยงาน เพื่อร่วมสร้างระบบนิเวศของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ผนึกกำลัง 3 การไฟฟ้า กฟผ.

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือจัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2565 ซึ่งนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี โดยมี มร. ไมเคิล ฉง รองประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง และนายศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นผู้ลงนาม ณ GWM Experience Center ไอคอนสยาม พร้อมด้วยทีมผู้บริหารระดับสูงจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้แก่ นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ และนายครรชิต ไชยสุโพธิ์ รองประธาน ฝ่ายกิจการองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า “การลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริมสนับสนุนขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้าและพัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้า ระหว่าง เกรท วอลล์ มอเตอร์ กับ กฟผ. กฟน. และ กฟภ. แสดงให้เห็นถึงบทบาทสําคัญของภาครัฐและภาคเอกชนในการร่วมมือกันขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงพลังงาน พร้อมผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ (Low-carbon Society) ส่งเสริมสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในไทยให้เอื้อต่อการจําหน่ายและผลิตรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ครอบคลุม เพื่อมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงต่อไป”

มร. ไมเคิล ฉง รองประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “หลังจากที่ภาครัฐได้มีนโยบายในการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ทำให้หลายภาคส่วนพร้อมผนึกกำลังร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่สังคมยนตรกรรมแห่งอนาคต เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เป็นแบรนด์รถยนต์กลุ่มแรกที่ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับรัฐบาลไทยเพื่อผลักดันนโยบายสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยความร่วมมือระหว่างเกรท วอลล์ มอเตอร์ กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทั้งในแง่การดำเนินการสำรวจเชิงลึกเกี่ยวกับสถานีอัดประจุไฟฟ้า การแบ่งปันทักษะและความรู้ความชำนาญในการติดตั้ง รวมถึงการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และรูปแบบการบริการ ซึ่งในปี 2565 เกรท วอลล์ มอเตอร์มีแผนที่จะสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้เพิ่มขึ้นเป็น 55 แห่ง การร่วมมือกับการไฟฟ้าทั้ง 3 หน่วยงานนี้ จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้เราบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับกลยุทธ์ระดับภูมิภาค โดยตั้งเป้าให้ “ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง และขยายตลาดเข้าสู่อาเซียน” ส่งเสริมและสนับสนุนนโยบายประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน ในอนาคต เราจะทำงานร่วมกับพันธมิตรของเรา โดยอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคชาวไทยในการเดินทางด้วยยานพาหนะไฟฟ้า สำรวจรูปแบบ และโอกาสทางอุตสาหกรรมใหม่เพิ่มเติม เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ของประเทศไทย รวมถึงการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคอาเซียน”

สำหรับความร่วมมือระหว่างเกรท วอลล์ มอเตอร์ กับ 3 หน่วยงานการไฟฟ้าในครั้งนี้จะครอบคลุมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานไฟฟ้าเพื่อรองรับการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ทั้งการติดตั้งและการพัฒนาสถานีประจุไฟฟ้า การแบ่งปันองค์ความรู้ที่สำคัญในการดำเนินการ พร้อมยกระดับแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในอนาคต โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.): ร่วมมือในการขยายเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าในรูปแบบ Fast-charge พร้อมพัฒนา Charging Mobile Application ที่สามารถใช้งานร่วมกันได้ ทั้งการแลกคะแนนสะสมระหว่างแพลตฟอร์ม และการระบุเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งาน นอกจากนี้ ยังร่วมมือกันทางด้านการส่งเสริมการตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางด้านยานยนต์ไฟฟ้า การศึกษาวิจัยแนวโน้มของแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งการศึกษาความเป็นไปได้และโอกาสในรูปแบบธุรกิจอื่น ๆ
  • การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.): แลกเปลี่ยนข้อมูลทางเทคนิค และการศึกษาวิจัยความเป็นไปได้ในการนำแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้ามาใช้ซ้ำและการรีไซเคิล รวมถึงการฝึกอบรมในด้านสถานีอัดประจุไฟฟ้า โดยเป็นพันธมิตรหลักในการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้กับสถานีชาร์จเร็ว (G-Charge) สถานีพาร์ทเนอร์ สโตร์ (Partner store) และสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบปลายทาง (Destination) พร้อมเชื่อมต่อการให้บริการในการจองสถานีและชำระเงินผ่านทั้งแอปพลิเคชันของ กฟน. และ GWM Application นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้เกิดผลิตภัณฑ์และบริการทางด้านยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อขับเคลื่อนสังคมไทยไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน
  • การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.): แลกเปลี่ยนข้อมูลทางเทคนิคของระบบการทำงานของยานยนต์ไฟฟ้า และระบบของสถานีอัดประจุไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน รวมถึงเป็นพันธมิตรหลักในการขยายเขตไฟฟ้า การติดตั้งหม้อแปลงให้กับสถานีพาร์ทเนอร์ สโตร์ (Partner store) และสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบปลายทาง (Destination) เพื่อสร้างความมั่นใจ ความปลอดภัยในการใช้ไฟฟ้า พร้อมสนับสนุนกิจกรรมทางการตลาด และการพัฒนาแอปพลิเคชันให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลของสถานีอัดประจุไฟฟ้าและอำนวยความสะดวกในการจองสถานีชาร์จและชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันได้อีกด้วย

ความร่วมมือครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก” (Global Intelligent Technology Company) ที่เห็นความสำคัญของการสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ผ่านการทำงานร่วมกับพันธมิตรในภาคส่วนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมผลักดันไทยให้ก้าวสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างยั่งยืนตามแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะยาว

Leave a Comment

Rolls-Royce Spectre EV Iconic VW Bus returns to North America as VW ID.BUZZ The new BMW i5 – World’s most successful business sedan goes electric! Mercedes-Maybach EQS SUV BMW iX1 now in Malaysia, priced from RM295k